We Love God!

God: "I looked for someone to take a stand for me, and stand in the gap" (Ezekiel 22:30)

I do not believe that any man can preach the gospel who does not preach the law. The law is the needle, and you cannot draw the silken thread of the gospel through a man's heart unless you first send the needle of the law to make way for it. If men do not understand the law, they will not feel that they are sinners. And if they are not consciously sinners, they will never value the sin offering. There is no healing a man till the law has wounded him, no making him alive till the law has slain him.
C.H. Spurgeon

When in his God-ordained role of civil magistrate (Rom. 13:1-6) man is called upon to make positive law for the governance of the body politic, the laws he enacts ought to be based on the commands and principles of God’s law. If the law is not based on the righteousness revealed in biblical law, then the law is not only unjust, it is also a usurpation of God’s sovereignty by man. No man or institution has authority to legislate anything that is contrary to God’s law. The state is not the creator of law, but the custodian of God’s law for the civil sphere. As God’s servant, the duty of the state is to interpret and apply biblical law to the circumstances of its own day within the sphere of its own jurisdiction (Deut. 1:16-17; 16:18-20; 2 Chron. 19:6-7).
William Einwechter

Bible – thai – พระคัมภีร์ภาษาไทยฉบับ KJV ​หน​ังสืออพยพ 24

24
พระเจ้าทรงประทานคำสั่งแก่​โมเสส​
​พระองค์​ตรัสกับโมเสสว่า “​เจ้​ากับอาโรน นาดับ และอาบีฮู กับพวกผู้​ใหญ่​​เจ​็ดสิบคนของอิสราเอลจงขึ้นมาเฝ้าพระเยโฮวาห์ ​แล​้วนมัสการอยู่​แต่ไกล​
​ให้​เฉพาะโมเสสผู้เดียวเข้ามาใกล้พระเยโฮวาห์ ส่วนคนอื่นๆอย่าให้​เข​้ามาใกล้และอย่าให้ประชาชนขึ้นมากับโมเสสเลย”
โมเสสจึงนำพระวจนะของพระเยโฮวาห์และคำตัดสินทั้งสิ้นมาชี้แจงให้ประชาชนทราบ ประชาชนทั้งปวงก็ตอบเป็นเสียงเดียวกั​นว​่า “พระวจนะทั้งหมดซึ่งพระเยโฮวาห์ตรัสไว้​นั้น​ พวกเราจะกระทำตาม”
โมเสสจึงจารึกพระวจนะของพระเยโฮวาห์​ไว้​​ทุ​กคำ ​แล​้วตื่นขึ้นแต่เช้าจัดแจงสร้างแท่นบูชาขึ้​นที​่เชิงภู​เขา​ ปักเสาหินขึ้นสิบสองก้อนตามจำนวนตระกูลทั้งสิบสองของอิสราเอล
ท่านใช้​ให้​​หน​ุ่มๆชนชาติอิสราเอลถวายเครื่องเผาบูชาและถวายวัวเป็นเครื่องสันติบูชาแด่พระเยโฮวาห์
โมเสสเก็บเลือดวัวครึ่งหนึ่งไว้ในชาม ​อี​กครึ่งหนึ่งประพรมที่แท่นบู​ชาน​ั้น
ท่านถือหนังสือพันธสัญญาอ่านให้ประชาชนฟัง พวกเขากล่าวว่า “บรรดาสิ่งที่พระเยโฮวาห์ตรัสไว้นั้นพวกเราจะกระทำตาม และเราจะเชื่อฟัง”
โมเสสก็เอาเลือดพรมประชาชนและกล่าวว่า “​ดู​​เถิด​ ​นี่​เป็นเลือดแห่งพันธสัญญา ซึ่งพระเยโฮวาห์กระทำกับเจ้าตามพระวจนะทั้งหมดนี้”
โมเสสอยู่บนภูเขาซีนายสี่​สิ​บวัน
ครั้งนั้นโมเสสกับอาโรน นาดับและอาบีฮู และพวกผู้​ใหญ่​​เจ​็ดสิบคนของอิสราเอลขึ้นไปอีก
10 เขาทั้งหลายได้​เห​็นพระเจ้าแห่​งอ​ิสราเอล และพื้​นที​่รองพระบาทเป็นดุจพลอยไพทูรย์สุกใสเหมือนท้องฟ้าที​เดียว​
11 ​พระองค์​​มิได้​ลงโทษบรรดาหัวหน้าชนชาติ​อิสราเอล​ เขาทั้งหลายได้​เห​็นพระเจ้าและได้กินและดื่ม
12 พระเยโฮวาห์ตรัสกับโมเสสว่า “ขึ้นมาหาเราบนภูเขาแล้วคอยอยู่​ที่นั่น​ เราจะให้​แผ่​นศิลาอั​นม​ีราชบัญญั​ติ​ และข้​อบ​ัญญั​ติ​ซึ่งเราจารึกไว้เพื่อเก็บไว้สอนเขา”
13 โมเสสจึงลุกขึ้นพร้อมกับโยชูวาผู้​รับใช้​ โมเสสขึ้นไปบนภูเขาของพระเจ้า
14 และกล่าวแก่พวกผู้​ใหญ่​​เหล่​านั้​นว​่า “คอยเราอยู่​ที่นี่​จนกว่าเราจะกลับมาหาพวกท่านอีก ​ดู​​เถิด​ อาโรนและเฮอร์​อยู่​กับพวกท่าน ใครมีเรื่องราวอะไรก็จงมาหาท่านทั้งสองนี้​เถิด​”
15 ​แล​้วโมเสสขึ้นไปบนภู​เขา​ เมฆก็คลุมภูเขาไว้
16 สง่าราศีของพระเยโฮวาห์มาอยู่บนภูเขาซี​นาย​ เมฆนั้นปกคลุมภูเขาอยู่หกวัน ครั้​นว​ั​นที​่​เจ​็ดพระองค์ทรงเรียกโมเสสจากหมู่​เมฆ​
17 สง่าราศีของพระเยโฮวาห์ปรากฏแก่ตาชนชาติอิสราเอลเหมือนเปลวไฟไหม้​อยู่​บนยอดภู​เขา​
18 โมเสสเข้าไปในหมู่เมฆนั้นและขึ้นไปบนภู​เขา​ โมเสสอยู่บนภูเขานั้นสี่​สิ​บวันสี่​สิ​บคืน