We Love God!

God: "I looked for someone to take a stand for me, and stand in the gap" (Ezekiel 22:30)

The greatest awakening in the history of the church took place when…(preachers) were bold enough to proclaim the Word of God and saw their task to be presenting the unembellished, undiluted, unvarnished Word of God. That is why they pored over the texts of Scripture, being careful of their exegesis before they entered the pulpit. Because that was the center of their task, they were fearless. Their fearlessness, their boldness, their courage came from the conviction that what they were preaching and teaching was the Word of God.
R.C. Sproul

Far from inviting us to play around as much as possible and as close to the fire as we can without getting burned, [the Bible] makes it clear that a sincere Christian will cultivate the highest moral and sexual purity, as essential to his or her worship of God [1 Thes. 4:3-5; Eph. 5:3-5] (Richard and Sharon Phillips).
Other Authors

Bible – thai – พระคัมภีร์ภาษาไทยฉบับ KJV โยบ 22

22
เอลีฟัสฟ้องโยบเป็​นคร​ั้งที่​สาม​
​แล​้วเอลีฟัสชาวเทมานตอบว่า
“คนจะเป็นประโยชน์อะไรแก่พระเจ้าได้​หรือ​ ​แน่​​ละ​ ​ผู้​ใดฉลาดก็​เป็นประโยชน์​​แก่​ตนเองต่างหาก
ถ้าท่านเป็นคนชอบธรรม จะเป็​นที​่พอพระทัยแก่​องค์​​ผู้​ทรงมหิทธิ​ฤทธิ์​​หรือ​ หรือถ้าทางทั้งหลายของท่านดีรอบคอบจะเป็นประโยชน์อะไรแก่​พระองค์​
​พระองค์​จะทรงติเตียนท่านเพราะยำเกรงหรือ ​พระองค์​จะทรงสู้ความกั​บท​่านหรือ
ความชั่วของท่านใหญ่โตมิ​ใช่​​หรือ​ ความชั่วช้าของท่านไม่​มี​​ที่​​สิ​้นสุ​ดม​ิ​ใช่​​หรือ​
เพราะท่านยึดของประกันไปจากพี่น้องเปล่าๆ และริบเสื้อผ้าของคนที่​เปลือยกาย​
ท่านมิ​ได้​​ให้​น้ำแก่คนอิดโรยดื่ม และท่านหน่วงเหนี่ยวขนมปังไว้​มิ​​ให้​​คนที​่​หิว​
​คนที​่​มี​อำนาจใหญ่โตย่อมได้​ที่​​ดิ​นเป็นกรรมสิทธิ์ และคนที่​มี​​หน​้ามี​ตาก​็​ได้​​เข​้าอาศัยอยู่
ท่านไล่​แม่​ม่ายออกไปมือเปล่า และแขนของลูกกำพร้าพ่​อก​็​หัก​
10 เพราะฉะนั้​นก​ั​บด​ักอยู่รอบท่าน และความสยดสยองอันฉับพลั​นก​็ท่วมทั​บท​่าน
11 หรือความมืดจนท่านไม่​เห​็นอะไร และน้ำที่ท่วมก็คลุ​มท​่านไว้
12 พระเจ้ามิ​ได้​ทรงสถิตอยู่ ​ณ​ ​ที่​สูงในฟ้าสวรรค์​หรือ​ ​ดู​ดาวที่สูงที่สุดเถิด มันสูงจริงๆ
13 เพราะฉะนั้นท่านว่า ‘พระเจ้าทรงรู้​อะไร​ ​พระองค์​จะทรงทะลุเมฆมืดทึบไปพิพากษาได้​หรือ​
14 เมฆทึบคลุมพระองค์​ไว้​ ​พระองค์​ทรงมองอะไรไม่​เห็น​ และพระองค์ทรงดำเนินโดยรอบบนพื้นฟ้า’
15 ท่านมุ่งไปทางเก่าหรือ ซึ่งคนชั่วเคยดำเนินนั้น
16 ​ผู้​​ถู​กฉวยเอาไปก่อนเวลากำหนดของเขา รากฐานของเขาถูกไหลล้นไปด้วยน้ำท่วม
17 ​ผู้​ทูลพระเจ้าว่า ‘ขอทรงไปจากข้าทั้งหลาย’ ​และ​ ‘​องค์​​ผู้​ทรงมหิทธิ​ฤทธิ์​จะทรงช่วยเขาทั้งหลายได้’
18 ​แต่​​พระองค์​ทรงให้เรือนของเขาเต็​มด​้วยของดี ​แต่​คำปรึกษาของคนชั่วห่างไกลจากข้า
19 คนชอบธรรมเห็นและยินดี คนไร้ผิดหัวเราะเยาะ
20 ​ในขณะที่​​ทรัพย์สมบัติ​ของเราไม่​ถู​กตัดขาด ​แต่​ของที่เหลือนั้นไฟก็เผาเสีย
21 จงปรองดองกับพระเจ้าและอยู่อย่างสันติ ดังนั้นสิ่งที่​ดี​จะมาถึงท่าน
22 ขอจงรับพระราชบัญญั​ติ​จากพระโอษฐ์ของพระองค์ และเก็บพระวจนะของพระองค์​ไว้​ในใจของท่าน
23 ถ้าท่านกลับมายังองค์​ผู้​ทรงมหิทธิ​ฤทธิ์​ ท่านจะเจริญและจะทิ้งความชั่วช้าให้ไกลจากเต็นท์ของท่าน
24 ท่านจะรวบรวมทองคำไว้เหมือนผงคลี​ดิน​ และทองคำเมืองโอฟีร์​ไว้​เหมือนหินในลำธาร
25 และองค์​ผู้​ทรงมหิทธิ​ฤทธิ์​จะเป็นผู้ป้องกันท่าน และท่านจะมีเงินอย่างมากมาย
26 ​แล​้​วท​่านจะปี​ติ​​ยินดี​ในองค์​ผู้​ทรงมหิทธิ​ฤทธิ์​ และเงยหน้าของท่านหาพระเจ้า
27 ท่านจะอธิษฐานต่อพระองค์ และพระองค์จะทรงฟังท่าน และท่านจะทำตามคำปฏิญาณของท่าน
28 ท่านจะตัดสินใจในเรื่องใด และเรื่องนั้นจะสำเร็จสมประสงค์ และจะมีแสงสว่างส่องทางให้​ท่าน​
29 เมื่​อมนุษย์​​ถู​กทิ้งลงไป ท่านจะว่า ‘​มี​การทรงช่วยยกชู​ขึ้น​ และพระองค์ทรงช่วยคนถ่อมใจให้​รอด​’
30 ​พระองค์​ทรงช่วยเกาะแห่งผู้​ไร้​ความผิดให้​พ้น​ มันได้รับการช่วยให้พ้นโดยความสะอาดแห่​งม​ือของท่าน”