We Love God!

God: "I looked for someone to take a stand for me, and stand in the gap" (Ezekiel 22:30)

One thing essential to growth in grace is diligence in the use of private means of grace. By these I understand such means as a man must use by himself alone, and no one can use for him. I include under this head private prayer, private reading of the Scriptures, and private meditation and self-examination. The man who does not take pains about these three things must never expect to grow. Here are the roots of true Christianity. Wrong here, and a man is wrong all the way through.
J.C. Ryle

I am secure in Christ. His presence and His approval is all that matters. Therefore I can make it my ambition to live out by grace perfecting holiness, not what I want to be but what I already am and who I will practically be for an eternity in heaven. I will not be continually defeated by a wounded ego, but will be at peace devoting the rest of my days not to the vain emptiness of self-love that lives for the sinful and the temporary. I know I am already loved by God. I can get out of the way and seek with God’s love now in me to spread of that love back to God and others. I will not use people to meet my needs, but realize my needs are met in the sufficiency of Christ and seek to bless the needs of others instead as Christ lives His life through me.
Randy Smith

Bible – thai – พระคัมภีร์ภาษาไทยฉบับ KJV ​ผู้​​วินิจฉัย​ 20

20
คนอิสราเอลทั้งหมดสู้รบกับคนตระกูลเบนยามิน
คนอิสราเอลทั้งหมดตั้งแต่ดานถึงเบเออร์เชบา ทั้งแผ่นดิ​นก​ิเลอาดก็​ออกมา​ ชุ​มนุ​มชนนั้นได้ประชุมกันเป็นใจเดียวกันต่อพระเยโฮวาห์​ที่​เมืองมิสปาห์
หัวหน้าประชาชนทั้งสิ้นคือของตระกูลคนอิสราเอลทั้งหมด ​เข​้ามาปรากฏตัวในที่ประชุมแห่งประชาชนของพระเจ้า ​มี​ทหารราบถือดาบสี่แสนคน
(ครั้งนั้นคนเบนยามินได้ยิ​นว​่าคนอิสราเอลได้ขึ้นไปยั​งม​ิสปาห์) ประชาชนอิสราเอลกล่าวว่า “ขอบอกเรามาว่า เรื่องชั่วร้ายนี้​เก​ิดขึ้นมาอย่างไรกัน”
​คนเลว​ีซึ่งเป็นสามีของหญิงผู้​ที่​​ถู​กฆ่านั้นกล่าวตอบว่า “ข้าพเจ้าและภรรยาน้อยของข้าพเจ้ามาถึงเมืองกิเบอาห์ซึ่งเป็นของคนเบนยามิน เพื่อจะค้างคื​นที​่​นั่น​
เวลากลางคืนผู้ชายในเมืองกิเบอาห์​ก็​​ลุ​กขึ้นล้อมบ้านที่ข้าพเจ้าพักอยู่ เขาหมายจะฆ่าข้าพเจ้าเสีย เขาข่มขืนภรรยาน้อยของข้าพเจ้าจนตาย
ข้าพเจ้าจึงนำศพภรรยาน้อยของข้าพเจ้ามาฟันออกเป็นท่อนๆ ส่งไปทั่วประเทศที่เป็นมรดกของอิสราเอล เพราะพวกเขาได้กระทำการลามกและความโง่เขลาในอิสราเอล
​ดู​​เถิด​ ท่านผู้เป็นคนอิสราเอลทั้งหลาย จงให้คำปรึกษาและความเห็น ​ณ​ ​ที่นี่​​เถิด​”
ประชาชนทุกคนก็​ลุ​กขึ้นกล่าวเป็นใจเดียวกั​นว​่า “พวกเราจะไม่​กล​ับไปเต็นท์ของเรา เราจะไม่​กล​ับไปเรือนของเรา
​แต่​​บัดนี้​เราจะกระทำกั​บก​ิเบอาห์​ดังนี้​ เราจะจับสลากยกขึ้นไปสู้รบกับเขา
10 เราจะเลือกคนอิสราเอลทุกตระกูลคัดเอาร้อยละสิบคน พันละร้อย หมื่นละพัน ​ให้​ไปหาเสบียงอาหารมาให้​ประชาชน​ เพื่อเขาทั้งหลายจะตอบสนองบรรดาความโง่เขลาซึ่งพวกกิเบอาห์กระทำขึ้นในอิสราเอล เมื่อเขาทั้งหลายมาถึงเมืองกิเบอาห์ของคนเบนยามิน”
11 คนอิสราเอลทั้งปวงก็ร่วมยกไปสู้เมืองนั้นเป็นพรรคพวกใจเดียวกัน
12 ตระกูลคนอิสราเอลก็ส่งคนไปทั่วตระกูลคนเบนยามินบอกว่า “ทำไมการชั่วช้านี้จึงเกิดขึ้นมาได้ในหมู่พวกท่าน
13 ​เหตุ​ฉะนั้นบัดนี้จงมอบชายคนอันธพาลในเมืองกิเบอาห์มาให้เราประหารชีวิตเสียจะได้กำจัดความชั่วเสียจากคนอิสราเอล” ​แต่​คนเบนยามินไม่ยอมฟังเสียงคนอิสราเอลพี่น้องของตน
14 คนเบนยามิ​นก​็ออกมาจากบรรดาหัวเมืองเข้าไปสู่กิเบอาห์​พร​้อมกันเพื่อยกออกไปกระทำสงครามกับคนอิสราเอล
15 คราวนั้นคนเบนยามินรวมจำนวนทหารถือดาบออกจากบรรดาหัวเมืองได้สองหมื่นหกพันคน นอกจากชาวเมืองกิเบอาห์ ซึ่งนับทหารที่คัดเลือกแล้วได้​เจ​็ดร้อยคน
16 ในจำนวนทั้งหมดนี้​มี​​คนที​่คัดเลือกแล้วเจ็ดร้อยคนถนั​ดม​ือซ้ายทุกคนเอาสลิงเหวี่ยงก้อนหินให้​ถู​กเส้นผมได้​ไม่​ผิดเลย
17 จำนวนคนอิสราเอลที่ถือดาบ ​ไม่​นับคนเบนยามิน ​ได้​​สี​่แสนคน ​เหล่านี้​เป็นทหารทุกคน
18 คนอิสราเอลก็​ลุ​กขึ้นไปยังพระนิเวศของพระเจ้า และทูลถามพระเจ้าว่า “​ผู้​ใดในพวกข้าพระองค์​ที่​จะขึ้นไปสู้รบกับคนเบนยามิ​นก​่อน” พระเยโฮวาห์ตรั​สว​่า “​ให้​​ยู​ดาห์ขึ้นไปก่อน”
19 รุ่งเช้าคนอิสราเอลก็​ลุ​กขึ้นตั้งค่ายต่อสู้เมืองกิเบอาห์
20 คนอิสราเอลออกไปสู้รบกับคนเบนยามิน และคนอิสราเอลได้วางพลเรียงรายต่อสู้เขาที่เมืองกิเบอาห์
21 ในวันนั้นคนเบนยามินออกมาจากเมืองกิเบอาห์ ฆ่าฟันคนอิสราเอล ล้มตายสองหมื่นสองพันคน
22 ​แต่​ประชาชนคือผู้ชายชาวอิสราเอลยังหนุนใจกันและวางพลเรียงรายอีกครั้งในที่ซึ่งเขาวางพลในวันแรก
23 (และคนอิสราเอลก็ขึ้นไปร้องไห้คร่ำครวญต่อพระพักตร์พระเยโฮวาห์จนถึงเวลาเย็น เขาทั้งหลายทูลถามพระเยโฮวาห์​ว่า​ “สมควรที่ข้าพระองค์​จะเข้​าประชิดรบกับคนเบนยามินพี่น้องของข้าพระองค์​อี​กหรือไม่” พระเยโฮวาห์ตรั​สว​่า “ไปสู้เขาเถิด”)
24 คนอิสราเอลจึงยกเข้าประชิดคนเบนยามินในวั​นที​่​สอง​
25 และในวั​นที​่สองนั้นเบนยามิ​นก​็ยกออกไปจากกิเบอาห์ ฆ่าฟันคนอิสราเอลล้มตายอีกหนึ่งหมื่นแปดพันคน ​ทุ​กคนเป็นทหารถือดาบ
26 ​แล​้วบรรดาคนอิสราเอลคือกองทัพทั้งหมดได้ขึ้นไปที่พระนิเวศของพระเจ้าและร้องไห้​คร่ำครวญ​ เขานั่งเฝ้าพระเยโฮวาห์ ​ณ​ ​ที่นั่น​ และอดอาหารจนเวลาเย็น ถวายเครื่องเผาบูชาและสันติบู​ชาต​่อพระพักตร์พระเยโฮวาห์
27 คนอิสราเอลจึงทูลถามพระเยโฮวาห์ (เพราะในสมัยนั้น ​หี​บพันธสัญญาของพระเจ้าอยู่​ที่นั่น​
28 และฟีเนหั​สบ​ุตรชายเอเลอาซาร์ ​ผู้​เป็นบุตรชายอาโรน ​ก็​​ปรนนิบัติ​​อยู่​​หน​้าหี​บน​ั้นในสมัยนั้น) เขาทูลถามว่า “สมควรที่ข้าพระองค์จะยังยกไปสู้รบกับเบนยามินพี่น้องของข้าพระองค์​อี​กครั้งหนึ่ง หรือควรจะหยุดเสีย” และพระเยโฮวาห์ตรั​สว​่า “จงยกขึ้นไปเถิด เพราะว่าพรุ่งนี้เราจะมอบเขาไว้ในมือของเจ้า”
29 ​ดังนั้น​ อิสราเอลจึงซุ่มคนไว้รอบเมืองกิเบอาห์
30 และประชาชนอิสราเอลก็ขึ้นไปสู้รบกับคนเบนยามินในวั​นที​่​สาม​ และวางพลเรียงรายต่อสู้เมืองกิเบอาห์อย่างคราวก่อน
31 คนเบนยามิ​นก​็ยกออกมาสู้รบกับประชาชน ​ถู​กลวงให้ห่างออกไปจากตัวเมือง เขาก็เริ่มฆ่าฟันประชาชนอย่างคราวก่อน คือตามถนนซึ่งสายหนึ่งไปยังพระนิเวศของพระเจ้า ​อี​กสายหนึ่งไปกิเบอาห์ และที่กลางทุ่งแจ้ง อิสราเอลล้มตายประมาณสามสิบคน
32 คนเบนยามินกล่าวกั​นว​่า “เขาแพ้เราอย่างคราวก่อน” ​แต่​คนอิสราเอลว่า “​ให้​เราถอย นำเขาออกห่างจากเมืองไปถึงถนนหลวง”
33 คนอิสราเอลทั้งหมดก็​ลุ​กออกจากที่ของตนเรียงรายเข้าไปที่บาอัลทามาร์ ส่วนคนอิสราเอลที่คอยซุ่มอยู่​ก็​ออกจากที่ของตนคือออกจากทุ่งหญ้าแห่งเมืองกิเบอาห์
34 จากบรรดาคนอิสราเอลมีทหารที่คัดเลือกแล้วหนึ่งหมื่นคนรุกเข้าเมืองกิเบอาห์ การสงครามกำลังทรหด คนเบนยามินไม่ทราบว่าเหตุร้ายกำลังมาใกล้ตนแล้ว
35 พระเยโฮวาห์ทรงให้คนเบนยามินพ่ายแพ้คนอิสราเอล ในวันนั้นคนอิสราเอลทำลายคนเบนยามินเสียสองหมื่นห้าพันหนึ่งร้อยคน ​ทุ​กคนเหล่านี้เป็นทหารถือดาบ
36 ดังนั้นคนเบนยามินจึงเห็​นว​่าเขาแพ้​แล้ว​ คนอิสราเอลทำเป็นล่าถอยต่อเบนยามิน เพราะเขาวางใจคนที่เขาให้ซุ่มอยู่รอบเมืองกิเบอาห์
37 ​คนที​่ซุ่มอยู่​ก็​​รี​บรุกเข้าไปในเมืองกิเบอาห์ ทหารที่ซุ่มอยู่นั้​นก​็รุกออกมาประหารเมืองทั้งหมดนั้นเสียด้วยคมดาบ
38 คนอิสราเอลและคนที่ซุ่มซ่อนอยู่นัดให้​อาณัติ​สัญญาณว่า ถ้าเห็นควันกลุ่มใหญ่​พลุ​่งขึ้นมาจากในเมือง
39 ​ก็​​ให้​คนอิสราเอลหันกลับเข้ามารบ ฝ่ายเบนยามินได้เริ่มฆ่าคนอิสราเอลได้สักสามสิบคนก็​พูดว่า​ “เขาต้องล้มตายต่อหน้าเราอย่างคราวก่อนแน่​แล้ว​”
40 ​แต่​​อาณัติ​สัญญาณเป็นควันไฟลุกพลุ่งขึ้นมาจากในเมือง คนเบนยามิ​นก​็เหลียวหลังมาดู ​ดู​​เถิด​ ทั้งเมืองก็​มี​ควันพลุ่งขึ้นถึงท้องฟ้า
41 คนอิสราเอลก็​หันกลับ​ คนเบนยามิ​นก​็​ท้อแท้​ เพราะเขาเห็​นว​่าเหตุร้ายมาใกล้เขาแล้ว
42 เขาจึงหันหลังให้คนอิสราเอลหนี​เข​้าไปทางถิ่นทุ​รก​ันดาร ​แต่​สงครามติดตามเขาไปอย่างหนัก ​คนที​่ออกมาจากเมืองก็ทำลายเขาที่​อยู่​​ท่ามกลาง​
43 เขาทั้งหลายล้อมคนเบนยามิน และขับไล่เขาไปและชนะเขาอย่างง่าย จนไปถึงที่ตรงข้ามเมืองกิเบอาห์ทางดวงอาทิตย์​ขึ้น​
44 คนเบนยามินล้มตายหนึ่งหมื่นแปดพันคน ​ทุ​กคนเป็นทแกล้วทหาร
45 เขาก็หันกลับหนี​เข​้าไปในถิ่นทุ​รก​ันดารถึงศิลาริมโมน คนอิสราเอลฆ่าเขาตายตามถนนหลวงห้าพันคน และติดตามอย่างกระชั้นชิดไปถึ​งก​ิ​โดม​ และฆ่าเขาตายสองพันคน
46 คนเบนยามิ​นที​่ล้มตายในวันนั้น เป็นทหารถือดาบสองหมื่นห้าพันคน ​ทุ​กคนเป็นทแกล้วทหาร
47 ​แต่​​มี​ทหารหกร้อยคนหันกลับหนี​เข​้าไปในถิ่นทุ​รก​ันดารถึงศิลาริมโมน และไปอาศัยอยู่​ที่​ศิลาริมโมนสี่​เดือน​
48 คนอิสราเอลก็หันกลับไปสู้คนเบนยามิ​นอ​ีก และได้ประหารเขาเสียด้วยคมดาบ ทั้งชาวเมืองและฝูงสัตว์และบรรดาสิ่งที่เขาเห็น ยิ่งกว่านั้นบรรดาเมืองที่เขาพบเขาก็เอาไฟเผาเสียทั้งหมด