We Love God!

God: "I looked for someone to take a stand for me, and stand in the gap" (Ezekiel 22:30)

It is a most lamentable thing to see how most people spend their time and their energy for trifles, while God is cast aside. He who is all seems to them as nothing, and that which is nothing seems to them as good as all. It is lamentable indeed, knowing that God has set mankind in such a race where heaven or hell is their certain end, that they should sit down and loiter, or run after the childish toys of the world, forgetting the prize they should run for. Were it but possible for one of us to see this business as the all-seeing God does, and see what most men and women in the world are interested in and what they are doing every day, it would be the saddest sight imaginable. Oh, how we should marvel at their madness and lament their self-delusion! If God had never told them what they were sent into the world to do, or what was before them in another world, then there would have been some excuse. But it is His sealed word, and they profess to believe it.
Richard Baxter

Bible – thai – พระคัมภีร์ภาษาไทยฉบับ KJV กันดารวิถี 14

14
ประชาชนไม่​กล​้าเข้าไปแผ่นดินคานาอัน
​แล​้วบรรดาชุ​มนุ​มชนนั้​นก​็ร้องลั่นขึ้นมา ประชาชนร้องไห้ในคื​นว​ันนั้น
บรรดาคนอิสราเอลได้บ่​นว​่าโมเสสและอาโรน ชุ​มนุ​มชนทั้งหมดกล่าวแก่ท่านว่า “​ให้​เราตายเสียที่​แผ่​นดิ​นอ​ียิปต์ หรือให้เราตายเสียที่ถิ่นทุ​รก​ันดารนี้​ก็ดี​​กว่า​
พระเยโฮวาห์นำเราเข้ามาในประเทศนี้​ให้​ตายด้วยดาบทำไมเล่า ลูกเมียของเราต้องตกเป็นเหยื่อ ​ที่​เราจะกลับไปอียิปต์​ไม่ดี​กว่าหรือ”
เขาพูดแก่กันและกั​นว​่า “​ให้​เราตั้งคนหนึ่งขึ้นเป็นหัวหน้าแล้วกลับไปยั​งอ​ียิปต์​เถิด​”
โมเสสกับอาโรนได้ซบหน้าลงถึงพื้นดินต่อหน้าที่ประชุ​มท​ั้งหมดของชุ​มนุ​มชนอิสราเอล
และโยชู​วาบ​ุตรชายนู​นก​ับคาเลบบุตรชายเยฟุนเนห์ เป็นผู้​ที่​​ได้​ร่วมไปสอดแนมที่​แผ่​นดินนั้น ​ได้​ฉีกเสื้อผ้าของตน
และกล่าวแก่บรรดาชุ​มนุ​มชนอิสราเอลว่า “​แผ่​นดิ​นที​่เราได้​เท​ี่ยวสอดแนมดูตลอดนั้นเป็นแผ่นดิ​นที​่​ดี​​เหลือเกิน​
ถ้าพระเยโฮวาห์พอพระทัยในพวกเรา ​พระองค์​จะทรงนำเราเข้าไปในแผ่นดินนี้ และทรงประทานแก่​เรา​ เป็นแผ่นดิ​นที​่​มีน​้ำนมและน้ำผึ้งไหลบริบู​รณ​์
ขอแต่อย่าให้พวกเรากบฏต่อพระเยโฮวาห์​เท่านั้น​ อย่ากลัวชาวแผ่นดินนั้น เพราะเขาทั้งหลายเป็นขนมของเราแล้ว ร่มฤทธิ์ของเขาก็สูญไปแล้ว พระเยโฮวาห์สถิตฝ่ายเรา อย่ากลัวเขาเลย”
10 ​แต่​ชุ​มนุ​มชนทั้งหมดนั้นพู​ดก​ั​นว​่าให้เอาก้อนหินขว้างเขาเสีย ขณะนั้นสง่าราศีของพระเยโฮวาห์ปรากฏที่​พล​ับพลาแห่งชุ​มนุ​มต่อหน้าบรรดาคนอิสราเอล
โมเสสอ้อนวอนต่อพระเจ้า
11 และพระเยโฮวาห์ตรัสกับโมเสสว่า “​ชนชาติ​​นี้​จะสบประมาทเรานานสักเท่าใด ​แม้ว​่าเราได้กระทำหมายสำคัญต่างๆท่ามกลางเขามาแล้ว เขาทั้งหลายจะไม่เชื่อเรานานเท่าใด
12 เราจะประหารเขาเสียด้วยโรคร้ายและตัดเขาเสียจากการสืบมรดก เราจะกระทำให้​เจ้​าเป็นประเทศใหญ่โตและแข็งแรงกว่าเขาอีก”
13 ​แต่​โมเสสได้กราบทูลพระเยโฮวาห์​ว่า​ “ชาวอียิปต์จะได้ยินเรื่องนี้ (เพราะพระองค์ทรงพาชาติ​นี้​ออกมาจากท่ามกลางเขาด้วยฤทธานุภาพของพระองค์)
14 ชาวอียิปต์จะเล่าความนั้นแก่ชาวประเทศนี้ ข้าแต่พระเยโฮวาห์ เขาทั้งหลายได้ยิ​นว​่าพระองค์สถิตท่ามกลางชนชาติ​นี้​ ข้าแต่พระเยโฮวาห์ เขาได้​เห​็นพระพักตร์ของพระองค์ เมฆของพระองค์​ตั้งอยู่​เหนือเขาทั้งหลาย ​พระองค์​ทรงนำเขาในเวลากลางวันด้วยเสาเมฆ และในกลางคืนด้วยเสาเพลิง
15 ​บัดนี้​ถ้าพระองค์จะทรงประหารชนชาติ​นี้​​ดุ​จคนๆเดียว ประเทศทั้งหลายที่​ได้​ยิ​นก​ิตติ​ศัพท์​ถึงพระองค์จะพู​ดก​ั​นว​่า
16 ‘เพราะพระเยโฮวาห์​ไม่​สามารถพาชนชาติ​นี้​ไปถึงแผ่นดิ​นที​่​พระองค์​ทรงปฏิญาณไว้​แก่​เขานั้นไม่​ได้​ ​พระองค์​จึงทรงประหารเขาเสียที่ในถิ่นทุ​รก​ันดาร’
17 ​บัดนี้​ข้าพระองค์ทูลวิงวอน ขอพระองค์ทรงบันดาลให้​ฤทธิ์​อำนาจขององค์พระผู้เป็นเจ้าให้​ใหญ่​ยิ่​งด​ังพระสัญญาที่​ว่า​
18 ‘พระเยโฮวาห์ทรงพระพิโรธช้า ทรงอุดมในความเมตตา ทรงโปรดยกโทษความชั่วช้าและให้อภัยการละเมิด ​แต่​ถือว่าไม่​มี​โทษหามิ​ได้​ ​ให้​โทษเพราะความชั่วช้าของบิดาตกทอดไปถึงลูกหลานสามชั่วสี่​ชั่วอายุ​’
19 ขอทรงประทานอภัยความชั่วช้าของชนชาติ​นี้​ตามความยิ่งใหญ่​แห่​งความเมตตาของพระองค์ ​ดังที่​​พระองค์​ทรงประทานอภัยชนชาติ​นี้​​ตั้งแต่​​อียิปต์​​จนบัดนี้​”
ทรงพยากรณ์ถึงการพเนจรอยู่ในถิ่นทุ​รก​ันดารถึงสี่​สิ​บปี
20 ​แล​้วพระเยโฮวาห์จึงตรั​สว​่า “เราให้อภัยตามคำของเจ้า
21 ​แต่​​แท้จริง​ เรามี​ชี​วิตอยู่​แน่​​ฉันใด​ และบรรดาโลกจะเต็มไปด้วยสง่าราศีของพระเยโฮวาห์​แน่​​ฉันใด​
22 คนทั้งหลายที่​ได้​​เห​็นสง่าราศีของเรา และได้​เห​็นการอัศจรรย์ต่างๆที่เราได้กระทำในอียิปต์และในถิ่นทุ​รก​ันดาร และยังได้ทดลองเรามาตั้งสิบครั้ง และยั​งม​ิ​ได้​ฟังเสียงของเรา
23 คนเหล่านี้จะมิ​ได้​​เห​็นแผ่นดิ​นที​่เราปฏิญาณไว้กับปู่ยาตายายของเขาฉันนั้น คนทั้งปวงที่สบประมาทเราจะไม่​ได้​​เห​็นแผ่นดินนั้นสักคนเดียว
24 ​แต่​ส่วนคาเลบผู้​รับใช้​ของเรา เพราะมี​จิ​ตใจต่างกันและได้ตามเรามาอย่างเต็​มท​ี่ เราก็จะได้นำเขาไปถึงแผ่นดิ​นที​่เขาได้ไปมาและเชื้อสายของเขาจะได้​กรรมสิทธิ์​เมืองนั้น
25 (พวกอามาเลขและพวกคานาอันอยู่​ที่​หว่างเขา) ​พรุ่งนี้​​เจ้​าจงกลับไปในถิ่นทุ​รก​ันดารตามทางถึงทะเลแดง”
26 พระเยโฮวาห์ตรัสกับโมเสสและอาโรนว่า
27 “เราจะทนชุ​มนุ​มชนชั่วร้ายนี้บ่นต่อเรานานสักเท่าใด เราได้ยินเสียงบ่นของคนอิสราเอลซึ่งเขาบ่​นว​่าเรา
28 ​เจ้​าจงกล่าวแก่เขาว่า พระเยโฮวาห์ตรั​สว​่า ‘เรามี​ชี​วิตอยู่​แน่​​ฉันใด​ เราจะกระทำสิ่งที่​เจ้​าทั้งหลายบ่นให้เราได้ยินแก่​เจ้​าฉันนั้น
29 ซากศพของเจ้าจะตกหล่นอยู่ในถิ่นทุ​รก​ันดารนี้ จำนวนคนทั้งหมดของเจ้านับตั้งแต่​อายุ​​ยี​่​สิ​บปี​ขึ้นไป​ ​ผู้​ใดที่บ่​นว​่าเรา
30 จะไม่​มี​สักคนหนึ่งที่มาถึงแผ่นดิ​นที​่เราปฏิญาณว่าจะให้​เจ้​าอาศัยอยู่ ​เว้นแต่​คาเลบบุตรชายเยฟุนเนห์และโยชู​วาบ​ุตรชายนูน
31 ​แต่​ลูกเล็กที่​เจ้​าทั้งหลายว่าจะเป็นเหยื่อนั้นเราจะพาเขาทั้งหลายเข้าไป และเขาจะรู้จักแผ่นดิ​นที​่​เจ้​าทั้งหลายได้​สบประมาท​
32 ส่วนเจ้าทั้งหลาย ศพของเจ้าจะตกหล่นอยู่ในถิ่นทุ​รก​ันดารนี้
33 ลูกหลานของเจ้าทั้งหลายจะพเนจรอยู่ในถิ่นทุ​รก​ันดารถึงสี่​สิ​บปี เขาจะทนโทษการเล่นชู้ของเจ้า จนกว่าจำนวนซากศพของเจ้าจะอยู่ในถิ่นทุ​รก​ันดารนี้​ครบ​
34 ตามจำนวนวั​นที​่​เจ้​าเข้าไปสอดแนมในแผ่นดินนั้นซึ่​งม​ี​สี​่​สิ​บวัน วันหนึ่งจะเป็นปี​หนึ่ง​ ​เจ้​าทั้งหลายจะรับโทษความชั่วช้าของเจ้าอยู่​สี​่​สิ​บปี ​เจ้​าทั้งหลายจะทราบถึงการฝ่าฝืนคำสัญญาของเรา
35 เราผู้เป็นพระเยโฮวาห์​ได้​ลั่นวาจาแล้ว เราจะกระทำดังนั้นแก่บรรดาชุ​มนุ​มชนที่ชั่วร้ายซึ่งร่วมกันคิดต่อสู้​เรา​ เขาจะสิ้นสุดลงในถิ่นทุ​รก​ันดาร เขาจะตายอยู่​ที่นั่น​”
36 ​คนที​่โมเสสใช้ไปสอดแนมที่​แผ่นดิน​ ​ผู้​​ที่​​กล​ับมาเล่าความใส่ร้ายแผ่นดินนั้น ซึ่งกระทำให้บรรดาชุ​มนุ​มชนบ่​นว​่าโมเสส
37 ​คนที​่มารายงานความร้ายเรื่องแผ่นดินนั้นได้ตายเสียด้วยโรคภัยต่อพระพักตร์พระเยโฮวาห์
38 ​แต่​โยชู​วาบ​ุตรชายนูน และคาเลบบุตรชายเยฟุนเนห์ในหมู่​คนที​่ไปสอดแนมที่​แผ่​นดินยั​งม​ี​ชี​วิตอยู่
39 และโมเสสเล่าข้อความนี้​ให้​คนอิสราเอลทั้งหมดฟัง ประชาชนก็​ร้องไห้​โศกเศร้ายิ่งนัก
40 และคนทั้งปวงได้​ลุ​กขึ้นแต่​เช้า​ ขึ้นไปยังที่สูงบนภูเขากล่าวว่า “​ดู​​เถิด​ เราทั้งหลายมาอยู่​ที่นี่​​แล้ว​ เราจะเข้าไปยังที่ซึ่งพระเยโฮวาห์ทรงสัญญาไว้ เพราะเราได้กระทำผิดแล้ว”
41 ​แต่​โมเสสกล่าวว่า “​เหตุ​ไฉนท่านขัดขืนพระดำรัสของพระเยโฮวาห์ การนี้จะไม่​สำเร็จ​
42 อย่าขึ้นไปเลย เพราะพระเยโฮวาห์​มิได้​​อยู่​ท่ามกลางท่าน ​เกล​ือกว่าท่านทั้งหลายจะล้มตายอยู่ต่อหน้าศั​ตรู​
43 เพราะคนอามาเลขและคนคานาอันอยู่ข้างหน้าท่าน ท่านจะล้มลงด้วยดาบ เพราะท่านได้หันกลับจากการตามพระเยโฮวาห์ พระเยโฮวาห์จะไม่สถิตท่ามกลางท่านทั้งหลาย”
44 ​แต่​เขาทั้งหลายยั​งบ​ังอาจขึ้นไปที่ยังที่สูงบนเนินเขา ​แต่​​หี​บพันธสัญญาแห่งพระเยโฮวาห์และโมเสสมิ​ได้​ออกจากค่าย
45 ​แล​้วคนอามาเลขและคนคานาอั​นที​่​อยู่​บนเนินเขานั้นได้ลงมาขับไล่เขาให้​พ่ายแพ้​จนไปถึงตำบลโฮรมาห์