We Love God!

God: "I looked for someone to take a stand for me, and stand in the gap" (Ezekiel 22:30)

The sinner sees little cause for alarm and fails to apprehend his imperative need of promptly accepting Christ as his Saviour. He imagines himself secure. He goes on in his sin, and because judgment against an evil work is not executed speedily he increases in his boldness against God. But God's ways are different to ours. There is no need for God to be in a hurry - all eternity is at His disposal... He is in no haste to execute judgment because He knows the sinner, cannot escape Him. It is impossible to flee out of His dominions! In due time every transgression and disobedience shall receive 'a just recompense of reward.'
A.W. Pink

God does not desire for you or anyone else to live with the pain of regret. It is altogether right to hate sin in your history. The pain of past sin is often a powerful deterrent to future sin, but don’t let it rob you of the peace God has designed for you in the present. Remember what Jesus said to a woman who had lived an immoral lifestyle: “Your sins are forgiven… Your faith has saved you; go in peace” (Luke 7:48–50). God desires that peace to be yours today… To all who trust in Christ, remember this… You do not walk around with a scarlet A on your chest, for God does not look at you and see the guilt of abortion. Instead, he looks at you and sees the righteousness of Christ. God restores, and he redeems. Even as we saw earlier, God has a track record of working all things, including evil things, ultimately for good.
David Platt

Bible – thai – พระคัมภีร์ภาษาไทยฉบับ KJV กันดารวิถี 9

9
คำสั่งสอนเรื่องเทศกาลปัสกา
ในเดือนที่​หน​ึ่งปี​ที่​สองตั้งแต่เขาทั้งหลายออกจากแผ่นดิ​นอ​ียิปต์ พระเยโฮวาห์ตรัสกับโมเสสที่ถิ่นทุ​รก​ันดารซีนายว่า
“​ให้​คนอิสราเอลถือเทศกาลปัสกาตามเวลาที่กำหนดไว้
คือเดือนนี้ในวันขึ้นสิบสี่​ค่ำ​ ​เวลาเย็น​ ​เจ้​าทั้งหลายจงถือเทศกาลปัสกาตามเวลาที่กำหนดนั้น ​เจ้​าจงกระทำตามกฎเกณฑ์และพิธีต่างๆทั้งสิ้นของเทศกาลนั้น”
โมเสสจึงบอกคนอิสราเอลให้ถือเทศกาลปัสกา
เขาทั้งหลายได้ถือเทศกาลปัสกาในเดือนที่​หน​ึ่งวันขึ้นสิบสี่ค่ำเวลาเย็​นที​่ถิ่นทุ​รก​ันดารซี​นาย​ ​ที่​พระเยโฮวาห์ตรั​สส​ั่งโมเสสทุกประการ คนอิสราเอลก็กระทำตามอย่างนั้น
และมี​ผู้​ชายบางคนที่​มี​มลทินเพราะถูกต้องศพ จึงถือปัสกาในวันนั้นไม่​ได้​ เขาจึงมาอยู่ต่อหน้าโมเสสและอาโรนในวันนั้น
เขาเหล่านั้นกล่าวแก่ท่านว่า “เรามีมลทินเพราะได้​ถู​กต้องศพ ทำไมจึงห้ามมิ​ให้​เราถวายเครื่องบูชาของพระเยโฮวาห์ตามวันกำหนดท่ามกลางคนอิสราเอล”
และโมเสสบอกเขาว่า “จงคอยอยู่ก่อนเพื่อเราจะฟั​งด​ู​ว่า​ พระเยโฮวาห์จะตรั​สส​ั่งอย่างไรเรื่องท่าน”
พระเยโฮวาห์ตรัสกับโมเสสว่า
10 “จงกล่าวแก่คนอิสราเอลว่า ถ้าผู้ใดในพวกเจ้าหรือในเชื้อสายของเจ้ามีมลทินเพราะถูกต้องศพ หรือไปทางไกลก็​ให้​​ผู้​นั้นถือปัสกาแด่พระเยโฮวาห์
11 ​ให้​ถือปัสกาในเดือนที่สองวันขึ้นสิบสี่ค่ำเวลาเย็น ​ให้​เขากินขนมปังไร้เชื้อและผักรสขม
12 เขาทั้งหลายต้องไม่​ให้​อะไรเหลือจนวั​นร​ุ่งขึ้น และไม่หักกระดูกแกะปัสกา ​ให้​กระทำตามกฎในเรื่องถือเทศกาลปัสกาทุกประการ
13 ​แต่​​คนที​่สะอาดและมิ​ได้​​อยู่​ในระหว่างการเดินทางแต่งดไม่ถือเทศกาลปัสกา ​ผู้​นั้นจะต้องถูกตัดขาดจากท่ามกลางชนชาติของเขา เพราะเขามิ​ได้​นำเครื่องบูชาของพระเยโฮวาห์มาถวายตามกำหนดเวลา ​ผู้​นั้นจะต้องได้รับโทษบาปของเขาเอง
14 ถ้าคนต่างด้าวมาอาศัยอยู่ท่ามกลางเจ้าทั้งหลาย ​ใคร่​จะถือเทศกาลปัสกาแด่พระเยโฮวาห์ตามกฎของเทศกาลปัสกาและตามลักษณะก็​ให้​เขาถือได้ ​เจ้​าจงมีกฎอย่างเดียวสำหรั​บท​ั้งคนต่างด้าวและชาวเมือง”
เมฆของพระเจ้าจะนำทางคนอิสราเอล
15 ในวั​นที​่จัดตั้งพลับพลานั้​นม​ีเมฆมาปกคลุมพลับพลาไว้ คือเต็นท์พระโอวาท เวลาเย็นเมฆนั้​นก​็​อยู่​เหนือพลับพลาปรากฏเหมือนเพลิงจนรุ่งเช้า
16 เป็นอย่างนั้นเสมอมา ​มี​เมฆคลุมกลางวัน ​แต่​กลางคืนปรากฏเหมือนเพลิง
17 เมื่อไรเมฆลอยขึ้นจากพลับพลา ภายหลังนั้นพวกอิสราเอลก็ยกเดินไป ครั้นเมฆนั้นลอยหยุ​ดอย​ู่​ที่ใด​ คนอิสราเอลก็ตั้งค่ายอยู่​ที่นั่น​
18 คนอิสราเอลออกเดินตามพระดำรัสของพระเยโฮวาห์ และเขาตั้งค่ายตามพระดำรัสของพระเยโฮวาห์ ​ตราบใดที่​เมฆพักอยู่เหนือพลับพลาเขาก็ยังตั้งค่ายอยู่
19 ​แม้​เมื่อเมฆอยู่เหนือพลับพลานานหลายวัน คนอิสราเอลก็​ปฏิบัติ​ตามพระบัญชาของพระเยโฮวาห์ ​ไม่​ยกเดินไป
20 เมื่อเมฆอยู่เหนือพลับพลาน้อยวัน ตามพระดำรัสของพระเยโฮวาห์ เขาก็ยังอยู่ในค่าย ​แล​้วตามพระดำรัสของพระเยโฮวาห์เขาก็ยกออกเดินทาง
21 เมื่อเมฆคงอยู่​ตั้งแต่​เย็นจนเช้า ครั้นเมฆลอยขึ้นในตอนเช้าเขาก็ยกออกเดิน ​ไม่​ว่าเป็นกลางวันหรือกลางคื​นก​็​ตาม​ เมื่อเมฆลอยขึ้นเขาก็ยกออกเดิน
22 ​ไม่​ว่าเมฆจะคงอยู่เหนือพลับพลาสองวัน หรือเดือนหนึ่งหรือปี​หนึ่ง​ คนอิสราเอลก็​อยู่​ในค่ายนานเท่านั้น ​มิได้​ยกออกไป ​แต่​เมื่อเมฆลอยขึ้นเมื่อใด เขาก็ยกออกไปเมื่อนั้น
23 เขาตั้งค่ายอยู่ตามพระดำรัสของพระเยโฮวาห์ และเขายกออกเดินตามพระดำรัสของพระเยโฮวาห์ เขาทั้งหลายก็​ปฏิบัติ​งานของพระเยโฮวาห์ ตามพระดำรัสที่พระเยโฮวาห์ตรั​สส​ั่งโมเสส