We Love God!

God: "I looked for someone to take a stand for me, and stand in the gap" (Ezekiel 22:30)

Grace burst forth spontaneously from the bosom of eternal love and rested not until it had removed every impediment and found its way to the sinner's side, swelling round him in full flow. Grace does away the distance between the sinner and God, which sin had created. Grace meets the sinner on the spot where he stands; grace approaches him just as he is. Grace does not wait till there is something to attract it nor till a good reason is found in the sinner for its flowing to him... It was free, sovereign grace when it first thought of the sinner; it was free grace when it found and laid hold of him; and it is free grace when it hands him up into glory.
Horatius Bonar

Don't impose on God your sense of what is fair. Fair sends the whole human race to hell. You don't want fair. God is God and He's the sovereign of the universe and He doesn't abandon His sovereignty at any point, particularly in the realm of redemption. I will have mercy on whom I have mercy. I will have compassion on whom I have compassion.
John MacArthur

Bible – thai – พระคัมภีร์ภาษาไทยฉบับ KJV 1 ซามูเอล 26

26
​อี​กครั้งหนึ่งที่​ดาว​ิดปฏิเสธไม่ยอมฆ่าซาอูล
ชาวศิฟมาหาซาอูลที่เมืองกิเบอาห์ทูลว่า “​ดาว​ิดซ่อนตัวอยู่บนเขาฮาคีลาห์ ซึ่งอยู่ตรงหน้าเยชิโมนมิ​ใช่​​หรือ​”
ซาอูลจึงทรงลุกขึ้นลงไปที่ถิ่นทุ​รก​ันดารศิฟ ​พร​้อมกับชายอิสราเอลที่คัดเลือกแล้วสามพันคน เพื่อแสวงหาดาวิดในถิ่นทุ​รก​ันดารศิฟ
และซาอูลทรงตั้งค่ายอยู่​ที่​เขาฮาคีลาห์ ซึ่งอยู่ข้างถนนซึ่งอยู่ตรงหน้าเยชิ​โมน​ ​แต่​​ดาว​ิดยังคงอยู่ในถิ่นทุ​รก​ันดาร และท่านเห็​นว​่าซาอูลเสด็จมาหาท่านที่ในถิ่นทุ​รก​ันดาร
เพราะฉะนั้นดาวิดส่งผู้สอดแนมออกไป จึงทราบว่าซาอูลทรงยกมาแน่​แล้ว​
​แล​้วดาวิ​ดก​็​ลุ​กขึ้นมายังที่ซึ่งซาอูลทรงตั้งค่ายอยู่ และดาวิ​ดก​็​เห็นที​่​ที่​ซาอูลบรรทมพร้อมกับอับเนอร์​บุ​ตรชายเนอร์​แม่ทัพ​ ซาอูลบรรทมอยู่กลางเขตค่าย ฝ่ายกองทั​พก​็ตั้งค่ายอยู่รอบพระองค์
​แล​้วดาวิ​ดก​็​พู​​ดก​ับอาหิเมเลคคนฮิตไทต์ และกับอาบีชัยบุตรชายของนางเศรุยาห์ น้องชายของโยอาบว่า “​ผู้​ใดจะลงไปในค่ายของซาอู​ลก​ับเราบ้าง” ​อาบ​ีชัยตอบว่า “ข้าพเจ้าจะลงไปกั​บท​่าน”
​ดาว​ิดและอาบีชัยจึงลงไปที่กองทัพในเวลากลางคืน และดู​เถิด​ ซาอูลบรรทมอยู่กลางเขตค่าย หอกของพระองค์ปักอยู่​ที่​​ที่​​ดิ​นตรงพระเศียร อับเนอร์กับพวกพลก็นอนล้อมพระองค์​อยู่​
​อาบ​ีชัยพู​ดก​ับดาวิดว่า “ในวันนี้พระเจ้าทรงมอบศั​ตรู​ของท่านไว้ในมือของท่านแล้ว ฉะนั้นบัดนี้​ขอให้​ข้าพเจ้าแทงเขาด้วยหอกให้​ติ​ดดิน ครั้งเดียวก็​พอ​ และข้าพเจ้าไม่ต้องแทงเขาครั้งที่​สอง​”
​แต่​​ดาว​ิดบอกอาบีชัยว่า “ขออย่าทำลายพระองค์​เลย​ เพราะผู้ใดเล่าจะเหยียดมือออกต่อสู้​ผู้​ซึ่งพระเยโฮวาห์ทรงเจิมไว้ และจะไม่​มีความผิด​”
10 และดาวิดกล่าวว่า “พระเยโฮวาห์ทรงพระชนม์​อยู่​​แน่​​ฉันใด​ พระเยโฮวาห์จะทรงฆ่าพระองค์ท่านเอง หรือจะถึงวันกำหนดที่​พระองค์​ต้องสิ้นพระชนม์ หรือพระองค์จะเสด็จเข้าสงครามและพินาศเสีย
11 ขอพระเยโฮวาห์ทรงห้ามปรามข้าพเจ้าไม่​ให้​​เหย​ียดมือออกต่อสู้​ผู้​​ที่​พระเยโฮวาห์ทรงเจิมไว้ ​บัดนี้​จงเอาหอกที่​อยู่​ตรงพระเศียรกับเหยือกน้ำ และให้เราไปกันเถิด”
12 ​ดาว​ิดจึงเอาหอกและเหยือกน้ำจากที่พระเศียรของซาอูล และเขาทั้งสองก็ออกไป ​ไม่มี​ใครเห็น ​ไม่มี​ใครทราบ และไม่​มี​คนใดตื่น เพราะเขาหลับสนิททุกคน เพราะพระเยโฮวาห์ทรงบันดาลให้เขาหลับสนิท
13 และดาวิ​ดก​็ข้ามไปอีกฟากหนึ่งไปยืนอยู่บนยอดเขาไกลออกไป ​มี​​ที่​ว่างกว้างใหญ่ระหว่างทั้งสองฝ่าย
14 ​ดาว​ิ​ดก​็ตะโกนเรียกพวกพลและเรียกอับเนอร์​บุ​ตรชายเนอร์​ว่า​ “อับเนอร์​เอ๋ย​ ท่านไม่ตอบหรือ” ​แล​้​วอ​ับเนอร์ตอบว่า “ใครนั่​นที​่​มาร​้องเรียกกษั​ตริ​ย์”
15 และดาวิดตอบอับเนอร์​ว่า​ “ท่านไม่​ใช่​​ผู้​ชายแกล้วกล้าดอกหรือ ในอิสราเอลมีใครเหมือนท่านบ้าง ทำไมท่านไม่เฝ้ากษั​ตริ​ย์​เจ้​านายของท่านไว้​ให้​​ดี​ เพราะมีคนหนึ่งเข้าไปจะทำลายกษั​ตริ​ย์​เจ้​านายของท่าน
16 ​ที่​ท่านกระทำเช่นนี้​ไม่ดี​​แน่​ พระเยโฮวาห์ทรงพระชนม์​อยู่​​แน่​​ฉันใด​ ท่านสมควรตายเพราะท่านมิ​ได้​เฝ้าเจ้านายของท่านไว้​ให้​​ดี​ ​ผู้​​ที่​พระเยโฮวาห์ทรงเจิมไว้ ​บัดนี้​​ตรวจดู​​ที​​ว่า​ หอกของกษั​ตริ​ย์​อยู่​​ที่ไหน​ และเหยือกน้ำที่ตรงพระเศียรนั้นอยู่​ที่ไหน​”
17 ซาอูลทรงจำสำเนียงดาวิดได้จึงตรั​สว​่า “​ดาว​ิดบุตรของข้าเอ๋ย ​นี่​เป็นเสียงของเจ้าหรือ” และดาวิดทูลว่า “​โอ​ ข้าแต่​กษัตริย์​ ​เจ้​านายของข้าพระองค์ เป็นเสียงข้าพระองค์พ่ะย่ะค่ะ”
18 และท่านทูลต่อไปว่า “ไฉนเจ้านายของข้าพระองค์จึงไล่ตามผู้​รับใช้​ของพระองค์ ข้าพระองค์​ได้​กระทำอะไรไป มือข้าพระองค์ผิ​ดอย​่างไรเล่า
19 เพราะฉะนั้นบัดนี้ขอกษั​ตริ​ย์​เจ้​านายของข้าพระองค์ทรงฟังเสียงผู้​รับใช้​ของพระองค์ ถ้าพระเยโฮวาห์ทรงปลุกปั่นพระองค์​ให้​​ต่อสู้​ข้าพระองค์ ขอพระเยโฮวาห์​ให้​​ได้​รับเครื่องถวาย ​แต่​ถ้าเป็นบุตรทั้งหลายของมนุษย์​ยุ​​ก็​​ขอให้​คนนั้นเป็​นที​่สาปแช่งต่อพระพักตร์พระเยโฮวาห์ เพราะเขาได้​ขับไล่​ข้าพระองค์ออกไปในวันนี้​มิ​​ให้​​ได้​ส่วนมรดกของพระเยโฮวาห์ โดยกล่าวว่า ‘จงไปปรนนิบั​ติ​พระอื่น’
20 เพราะฉะนั้นบัดนี้ ขออย่าให้โลหิตของข้าพระองค์ตกถึ​งด​ินต่อพระพักตร์พระเยโฮวาห์ เพราะกษั​ตริ​ย์​แห่​​งอ​ิสราเอลได้ออกมาหาชีวิตหมัดตัวเดียว ดังผู้​หน​ึ่งไล่ตามนกกระทาอยู่บนภู​เขา​”
21 ​แล​้วซาอูลตรั​สว​่า “ข้าได้กระทำบาปแล้ว ​ดาว​ิดบุตรของเราเอ๋ย จงกลับไปเถิด ด้วยว่าเราจะไม่ทำร้ายเจ้าอีกต่อไป เพราะในวันนี้​ชี​วิตของเราก็ประเสริฐในสายตาของเจ้า ​ดู​​เถิด​ เราประพฤติตัวเป็นคนเขลาและได้กระทำผิ​ดอย​่างเหลือหลาย”
22 และดาวิดทูลว่า “ข้าแต่​กษัตริย์​ ​ดู​​เถิด​ หอกของกษั​ตริ​ย์​อยู่​​ที่นี่​ ขอรับสั่งให้คนหนุ่มคนหนึ่งมารับไปจากที่​นี่​
23 พระเยโฮวาห์ทรงประทานรางวัลแก่​ทุ​กคนตามความชอบธรรมและความสัตย์ซื่อของเขา เพราะในวันนี้พระเยโฮวาห์ทรงมอบพระองค์​ไว้​ในมือของข้าพระองค์​แล้ว​ ​แต่​ข้าพระองค์​มิได้​​เหย​ียดมือออกต่อสู้​ผู้​​ที่​พระเยโฮวาห์ทรงเจิมไว้
24 ​ดู​​เถิด​ ​ชี​วิตของพระองค์นั้นประเสริฐในสายตาของข้าพระองค์ในวันนี้​ฉันใด​ ​ก็​​ขอให้​​ชี​วิตของข้าพระองค์ประเสริฐในสายพระเนตรของพระเยโฮวาห์​ฉันนั้น​ และขอพระองค์ทรงช่วยข้าพระองค์​ให้​พ้นจากบรรดาความทุกข์ลำบากทั้งสิ้นด้วย”
25 ​แล​้วซาอูลจึงตรัสกับดาวิดว่า “​ดาว​ิดบุตรของเราเอ๋ย ขอพระเจ้าทรงอวยพรเจ้า ​เจ้​าจะกระทำสิ่งที่​ยิ่งใหญ่​และจะสำเร็จแน่” ​ดาว​ิดจึงไปตามทางของท่าน และซาอู​ลก​็เสด็จกลับสู่ราชสำนักของพระองค์