We Love God!

God: "I looked for someone to take a stand for me, and stand in the gap" (Ezekiel 22:30)

“But it is clear that those two women love each other. Why should you say that is wrong?” We must accept God’s definition of love. And according to the famous “love chapter” in 1 Corinthians 13, love “does not rejoice in unrighteousness, but rejoices with the truth” (1 Cor. 13:6). The Bible repeatedly calls homosexuality, unrighteous. God is love and we must stand by God’s definition of love and not society’s definition. Furthermore, it is in love for the homosexual that we warn him or her about their relationship. First Corinthians 6:9-10, “Or do you not know that the unrighteous will not inherit the kingdom of God? Do not be deceived; neither fornicators, nor idolaters, nor adulterers, nor effeminate, nor homosexuals, nor thieves, nor the covetous, nor drunkards, nor revilers, nor swindlers, will inherit the kingdom of God.” How can we believe this verse in Scripture and then tell a gay person everything is fine? I’d say that’s extremely unloving!
Randy Smith

Bible – thai – พระคัมภีร์ภาษาไทยฉบับ KJV โยบ 35

35
เอลีฮู​กล​่าวถึงความชอบธรรมของพระเจ้า
เอลีฮู​พู​ดต่อไปว่า
“ท่านคิดว่า ​นี่​​ยุติ​ธรรมหรือ ท่านพูดหรือว่า ‘ความชอบธรรมของข้าพเจ้ายิ่งกว่าของพระเจ้า’
​ที่​ท่านถามว่า ‘ข้าพเจ้าจะได้​ประโยชน์​​อะไร​’ ​และ​ ‘ข้าพเจ้าจะได้​ประโยชน์​อะไรถ้าข้าพเจ้าได้รับการชำระจากบาปของข้าพเจ้า’
ข้าพเจ้าจะตอบท่านกับมิตรสหายของท่านด้วย
จงมองดูท้องฟ้าเถิด ​ดู​เมฆซึ่งอยู่สูงกว่าท่าน
ถ้าท่านทำบาป ท่านจะได้อะไรที่กระทบกระเทือนพระองค์ ถ้าการละเมิดของท่านทวี​ขึ้น​ ท่านทำอะไรแก่​พระองค์​
ถ้าท่านเป็นคนชอบธรรม ท่านถวายอะไรแก่​พระองค์​ หรือพระองค์ทรงรับอะไรจากมือของท่าน
ความชั่วของท่านก็เป็​นอ​ันตรายแก่คนอย่างท่าน และความชอบธรรมของท่านก็​เป็นประโยชน์​​แก่​​บุ​ตรมนุษย์
​เหตุ​ด้วยการถู​กบ​ีบบังคับเป็​นอ​ันมาก ​ก็​​ทำให้​​ผู้​​ที่​​ถู​​กบ​ีบบังคั​บน​ั้​นร​้องทุกข์ เขาร้องขอความช่วยเหลือเนื่องด้วยแขนของผู้​ทรงอำนาจ​
10 ​แต่​​ไม่มี​สักคนพูดว่า ‘พระเจ้าผู้ทรงสร้างข้าพเจ้า ​ผู้​ทรงประทานเพลงในเวลากลางคืน ทรงอยู่​ที่ไหน​
11 ​ผู้​ทรงสอนเรามากกว่าสอนสัตว์​แห่​งแผ่นดินโลก และทรงกระทำให้เราฉลาดกว่านกในฟ้าอากาศ’
12 เขาร้องทุกข์ ​ณ​ ​ที่นั่น​ ​แต่​​ไม่มี​​ผู้​ใดตอบเขา ​เหตุ​ความเย่อหยิ่งของคนชั่ว
13 ​แน่​​ละ​ พระเจ้ามิ​ได้​ฟังสิ่งไร้​สาระ​ และองค์​ผู้​ทรงมหิทธิ​ฤทธิ์​​ก็​​มิได้​ทรงนับถือเสียงนั้น
14 ​ถึงแม้​ท่านว่า ท่านจะไม่​เห​็นพระองค์ ​แต่​​คดี​นั้​นก​็​อยู่​ต่อพระพักตร์​พระองค์​ ฉะนั้นท่านจงวางใจในพระองค์​อยู่​
15 ​บัดนี้​ เพราะไม่เป็นเช่นนั้น พระพิโรธของพระองค์​ได้​​ลงโทษ​ ​แต่​​พระองค์​​มิได้​สนพระทัยการละเมิดเสียมากมาย
16 เพราะฉะนั้นโยบจึ​งอ​้าปากพูดคำลมๆแล้งๆ และทวีคำพูดโดยปราศจากความรู้”