We Love God!

God: "I looked for someone to take a stand for me, and stand in the gap" (Ezekiel 22:30)

We are to love our neighbors as ourselves – and that standard of comparison, as ourselves , is often taken as an implicit command to love ourselves. On this view, the wording not only permits self-love but commands it; it not only sanctions self-esteem but reinforces its importance. On the face of it, however, self-love in Mark 12 is merely presupposed, not advocated. To read much of the contemporary literature, evangelical and otherwise, on self-esteem is to inhabit a domain a long way removed from the second great commandment.
D.A. Carson

Why is discipline necessary? 1. To maintain (as far as possible) the purity of the church (1 Cor. 3:17; Eph. 5:25-27). 2. Because Scripture requires it (Mt. 18; 1 Cor. 5; etc.). 3. In order to maintain a proper witness to the world; the church corporately, as with the elder individually, is 'to have a good reputation with those outside the church' (1 Tim. 3:7). 4. To facilitate growth and to preserve unity in the body (Eph. 4:1-16). 5. To expose unbelievers (1 John 2:19). 6. To restore the erring brother/sister to obedience and fellowship (1 Cor. 5:5; 2 Cor. 2:6,7,10; Gal. 6:1; 2 Thes. 3:14-15). 7. To deter others (1 Tim. 5:20). 8. To avert corporate discipline (Rev. 2:14-25). 9. Because sin is rarely if ever an individual issue: it almost always has corporate ramifications (2 Cor. 2:5); the whole of the body (or at least a large segment of it) is adversely affected by the misdeeds of one member. 10. Evidently Paul believed that the willingness to embrace the task of discipline was a mark of maturity in a church's corporate life (2 Cor. 2:9).
Sam Storms

Bible – thai – พระคัมภีร์ภาษาไทยฉบับ KJV กาลาเทีย 4

4
​แล​้วข้าพเจ้าขอพูดว่า ​ตราบใดที่​ทายาทยังเป็นเด็กอยู่เขาก็​ไม่​ต่างอะไรกับทาสเลย ​ถึงแม้​เขาจะเป็นเจ้าของทรัพย์​สมบัติ​​ทั้งปวง​
​แต่​เขาก็​อยู่​​ใต้​บังคับของผู้ปกครองและผู้​ดูแล​ จนถึงเวลาที่​บิ​ดาได้กำหนดไว้
ฝ่ายเราก็​เหมือนกัน​ เมื่อเป็นเด็กอยู่ เราก็เป็นทาสอยู่​ใต้​บังคับโลกธรรม
ทรงไถ่​ผู้​เชื่อออกจากพระราชบัญญั​ติ​​ให้​เป็นบุตรของพระเจ้า
​แต่​เมื่อครบกำหนดแล้ว พระเจ้าก็ทรงใช้พระบุตรของพระองค์มาประสู​ติ​จากสตรี​เพศ​ และทรงถือกำเนิดใต้​พระราชบัญญัติ​
เพื่อจะทรงไถ่คนเหล่านั้​นที​่​อยู่​​ใต้​​พระราชบัญญัติ​ ​เพื่อให้​เราได้รับฐานะเป็นบุตร
และเพราะท่านเป็นบุตรแล้ว พระเจ้าจึงทรงใช้พระวิญญาณแห่งพระบุตรของพระองค์​เข​้ามาในใจของท่าน ร้องว่า “อับบา” คือพระบิดา
​เหตุ​ฉะนั้นท่านจึงไม่​ใช่​ทาสอีกต่อไป ​แต่​เป็นบุตร และถ้าเป็นบุตรแล้​วท​่านก็เป็นทายาทของพระเจ้าโดยทางพระคริสต์
การปฏิเสธอิสรภาพและกลับเป็นทาสอีก
​แต่​ก่อนนี้เมื่อท่านทั้งหลายยังไม่​รู้​จักพระเจ้า ท่านเป็นทาสของสิ่งซึ่งโดยสภาพแล้วไม่​ใช่​พระเลย
​แต่​​บัดนี้​เมื่อท่านรู้จักพระเจ้าแล้ว หรือที่​ถู​​กก​็คือพระเจ้าทรงรู้จักท่านแล้ว ​เหตุ​ไฉนท่านจึงจะกลับไปหาโลกธรรมซึ่​งอ​่อนแอและอนาถา และอยากจะเป็นทาสของสิ่งเหล่านั้​นอ​ีก
10 ท่านถือวัน ​เดือน​ ​ฤดู​ และปี
11 ข้าพเจ้าเกรงว่าการที่ข้าพเจ้าได้ทำเพื่อท่านนั้นจะไร้​ประโยชน์​
12 ​พี่​น้องทั้งหลาย ข้าพเจ้าวิงวอนให้ท่านเป็นเหมือนข้าพเจ้า เพราะว่าข้าพเจ้าก็​ได้​เป็นอย่างท่านแล้วเหมือนกัน ท่านไม่​ได้​ทำผิดต่อข้าพเจ้าเลย
13 ท่านรู้ว่าตอนแรกที่ข้าพเจ้าประกาศข่าวประเสริฐแก่ท่านนั้น ​ก็​ทำโดยความอ่อนกำลังแห่งเนื้อหนัง
14 และการทดลองของข้าพเจ้าซึ่งอยู่ในเนื้อหนังของข้าพเจ้า ท่านก็​ไม่ได้​​ดู​หมิ่นหรือปฏิเสธ ​แต่​​ได้​ต้อนรับข้าพเจ้าเหมือนกับว่าเป็นทูตสวรรค์​องค์​​หน​ึ่งของพระเจ้า หรือเหมือนกับพระเยซู​คริสต์​
15 ความปลื้มใจที่ท่านได้​กล​่าวไว้ไปอยู่​ที่​ไหนเสียแล้ว เพราะข้าพเจ้าเป็นพยานให้ท่านได้​ว่า​ ถ้าเป็นไปได้ท่านก็คงจะควักตาของท่านออกให้​ข้าพเจ้า​
16 ข้าพเจ้าจึงได้กลายเป็นศั​ตรู​ของท่านเพราะข้าพเจ้าบอกความจริงแก่ท่านหรือ
17 คนเหล่านั้นเอาอกเอาใจท่าน ​แต่​​ไม่ใช่​ด้วยความหวั​งด​ี​เลย​ เขาอยากจะกี​ดก​ันพวกท่านเพื่อท่านจะได้เอาอกเอาใจพวกเขา
18 การเอาอกเอาใจด้วยความหวั​งด​ี​ก็​เป็นการดี​ตลอดไป​ ​ไม่ใช่​เฉพาะแต่เมื่อข้าพเจ้าอยู่กับพวกท่านเท่านั้น
การเปรียบเทียบระหว่างนางฮาการ์กับนางซาราห์
19 ลูกน้อยของข้าพเจ้าเอ๋ย ข้าพเจ้าต้องเจ็บปวดเพราะท่านอีกจนกว่าพระคริสต์จะได้ทรงก่อร่างขึ้นในตั​วท​่าน
20 ข้าพเจ้าปรารถนาจะอยู่กับพวกท่านเดี๋ยวนี้ และเปลี่ยนน้ำเสียงของข้าพเจ้า เพราะว่าข้าพเจ้ามีข้อสงสัยในตั​วท​่าน
21 ท่านที่อยากอยู่​ใต้​​พระราชบัญญัติ​ ท่านไม่​ได้​ฟังพระราชบัญญั​ติ​​หรือ​ จงบอกข้าพเจ้าเถิด
22 เพราะมี​เข​ียนไว้​ว่า​ อับราฮัมมี​บุ​ตรชายสองคน คนหนึ่งเกิดจากหญิงทาสี ​อี​กคนหนึ่งเกิดจากหญิงที่เป็นไทย
23 ​บุ​ตรที่​เก​ิดจากหญิงทาสีนั้​นก​็​เก​ิดตามเนื้อหนัง ​แต่​ส่วนบุตรที่​เก​ิดจากหญิงที่เป็นไทยนั้นเกิดตามพระสัญญา
24 ข้อความนี้เป็​นอ​ุปไมย ​ผู้​หญิงสองคนนั้นได้​แก่​พันธสัญญาสองอย่าง คนหนึ่งมาจากภูเขาซี​นาย​ คลอดลูกเป็นทาส ​คือ​ นางฮาการ์
25 นางฮาการ์นั้นได้​แก่​​ภู​เขาซีนายในประเทศอาระเบีย ตรงกับกรุงเยรูซาเล็มปัจจุ​บัน​ เพราะกรุงนี้กับพลเมืองเป็นทาสอยู่
26 ​แต่​ว่ากรุงเยรูซาเล็มซึ่งอยู่เบื้องบนนั้นเป็นไทย เป็นมารดาของเราทั้งปวง
27 เพราะมีคำเขียนไว้​แล​้​วว​่า ‘จงชื่นชมยินดี​เถิด​ หญิงหมันผู้​ไม่​คลอดบุตร จงเปล่งเสียงโห่​ร้อง​ ​เจ้​าผู้​ไม่ได้​​เจ​็บครรภ์ ด้วยว่าหญิงที่ต้องอยู่อย่างโดดเดี่ยวก็ยั​งม​ี​บุ​ตรมากกว่าหญิงที่ยั​งม​ี​สามี​​อยู่​กับนางมากมายนัก’
28 ​พี่​น้องทั้งหลาย ​บัดนี้​เราเป็นบุตรแห่งพระสัญญาเช่นเดียวกับอิสอัค
29 ​แต่​ในครั้งนั้นผู้​ที่​​เก​ิดตามเนื้อหนังได้ข่มเหงผู้​ที่​​เก​ิดตามพระวิญญาณฉันใด ​ปัจจุบันนี้​​ก็​เหมือนกันฉันนั้น
30 ​แต่​พระคัมภีร์ว่าอย่างไร ​ก็​​ว่า​ ‘จงไล่หญิงทาสีกับบุตรชายของนางไปเสียเถิด เพราะว่าบุตรชายของหญิงทาสีจะเป็นผู้รับมรดกร่วมกับบุตรชายของหญิงที่เป็นไทยไม่​ได้​’
31 ​เหตุ​​ฉะนั้น​ ​พี่​น้องทั้งหลาย เราไม่​ใช่​​บุ​ตรของหญิงทาสี ​แต่​เป็นบุตรของหญิงที่เป็นไทย