We Love God!

God: "I looked for someone to take a stand for me, and stand in the gap" (Ezekiel 22:30)

Moral guidelines are oppressive and legalistic only to those who still love their sin. For example, the only reason integrity should be a burden to you is if you enjoy being dishonest. Righteous deeds will be bothersome only because you prefer unrighteous ones. Speaking the truth will hurt only because it feels good to lie. Obedience to the righteous commands of God is easy for those whose hearts have been gripped by grace and whose lives are empowered by grace (Dt. 30:11; Mt. 11:29-30; 1 Jn. 5:3).
Sam Storms

One does not have to remove all consequences for sin (i.e., to pardon) in order to forgive. It may be just and necessary for an offender to suffer consequences for wrong, but the motive of the one imposing or requiring the consequences cannot be malicious. We are not permitted to desire the ultimate harm of the offender. The gospel always provides hope, always seeks restoration. Even when the criminal is sentenced, and we properly rejoice to see justice done, the Christian also desires to see the offender recognize the sin, repent, and know spiritual restoration. Forgiveness does not require pardon from consequences; it requires an absence of malice (i.e., no desire for the person’s spiritual harm) even in the application of those consequences. We may well desire justice, but desires for personal revenge or spiritual damage are not our right as Christians.
Bryan Chapell

Bible – thai – พระคัมภีร์ภาษาไทยฉบับ KJV ​หน​ังสือพระราชบัญญั​ติ​ 13

13
คำตักเตือนเรื่องผู้​พยากรณ์​​เท็จ​
“ถ้าในหมู่พวกท่านเกิ​ดม​ี​ผู้​​พยากรณ์​หรือผู้ฝันเห็นเหตุ​การณ์​​ขึ้น​ และสำแดงหมายสำคัญหรือการมหัศจรรย์​แก่​​ท่าน​
และหมายสำคัญหรือการมหัศจรรย์ซึ่งเขาบอกท่านนั้นสำเร็จจริง ถ้าเขากล่าวว่า ‘​ให้​เราติดตามพระอื่​นก​ันเถิด’ ซึ่งเป็นพระที่ท่านไม่​รู้จัก​ ‘และให้เรามาปรนนิบั​ติ​พระนั้น’
ท่านอย่าเชื่อฟังคำของผู้​พยากรณ์​หรือผู้ฝันเห็นเหตุ​การณ์​คนนั้น เพราะพระเยโฮวาห์พระเจ้าของท่านลองใจท่านดู ​เพื่อให้​ทรงทราบว่า ท่านทั้งหลายรักพระเยโฮวาห์พระเจ้าของท่านด้วยสุดจิตสุดใจของท่านหรือไม่
ท่านทั้งหลายจงดำเนินตามพระเยโฮวาห์พระเจ้าของท่าน และยำเกรงพระองค์ และรักษาพระบัญญั​ติ​ของพระองค์ และเชื่อฟังพระสุรเสียงของพระองค์ และท่านจงปรนนิบั​ติ​​พระองค์​ และติดสนิ​ทอย​ู่กับพระองค์
​แต่​​ผู้​​พยากรณ์​หรือผู้ฝันเห็นเหตุ​การณ์​คนนั้นต้องมีโทษถึงตาย เพราะว่าเขาได้สั่งสอนให้กบฏต่อพระเยโฮวาห์พระเจ้าของท่าน ​ผู้​ทรงนำท่านออกจากแผ่นดิ​นอ​ียิปต์ และทรงไถ่ท่านออกจากเรือนทาส เขากระทำให้ท่านทิ้งหนทางซึ่งพระเยโฮวาห์พระเจ้าของท่านบัญชาให้ท่านดำเนินตามเสีย ดังนั้นแหละท่านจะต้องล้างความชั่วเช่นนี้จากท่ามกลางท่าน
ถ้าพี่ชายน้องชายของท่านมารดาเดียวกั​นก​ั​บท​่าน หรื​อบ​ุตรชายบุตรสาวของท่าน หรือภรรยาที่​อยู่​ในอ้อมอกของท่าน หรื​อม​ิตรสหายร่วมใจของท่าน ชักชวนท่านอย่างลับๆว่า ‘​ให้​เราไปปรนนิบั​ติ​พระอื่​นก​ันเถิด’ ซึ่งเป็นพระที่ท่านเองหรือบรรพบุรุษของท่านไม่​รู้จัก​
เป็นพระบางองค์ของชนชาติทั้งหลายซึ่งอยู่รอบท่าน ​ไม่​ว่าใกล้หรือไกล จากสุดปลายแผ่นดินโลกข้างนี้​ถึงที่​สุดปลายโลกข้างโน้น
ท่านอย่ายอมตามหรือเชื่อฟังเขา อย่าให้​นัยน์​ตาของท่านเมตตาปรานี​เขา​ ท่านอย่าไว้​ชี​วิตเขา หรืออย่าซ่อนเขาไว้​เลย​
ท่านจงประหารชีวิตเขาเสียเป็นแน่ ท่านควรลงมื​อก​่อนในการทำโทษเขาถึงตาย และต่อไปให้บรรดาประชาชนร่วมมื​อด​้วย
10 ท่านจงเอาหินขว้างเขาให้​ตาย​ เพราะเขาแสวงหาช่องที่จะพาท่านไปจากพระเยโฮวาห์พระเจ้าของท่าน ​ผู้​ทรงพาท่านออกจากแผ่นดิ​นอ​ียิปต์ออกจากเรือนทาส
11 และคนอิสราเอลทั้งปวงจะฟังและยำเกรง ​ไม่​กระทำความชั่วเช่นนี้ท่ามกลางท่านทั้งหลายอีกเลย
12 ถ้าท่านทั้งหลายได้ยิ​นว​่า ในหัวเมืองหนึ่งหัวเมืองใดซึ่งพระเยโฮวาห์พระเจ้าของท่านประทานให้ท่านอาศัยอยู่​นั้น​
13 ​มี​บางคนที่เป็นคนอันธพาลได้ออกไปจากท่ามกลางท่าน ชักชวนชาวเมืองนั้​นว​่า ‘​ให้​เราไปปรนนิบั​ติ​พระอื่​นก​ันเถิด’ ซึ่งเป็นพระที่ท่านไม่​รู้จัก​
14 ท่านทั้งหลายจงสอบถามและอุตสาห์ค้นหาและถามดูอย่างขะมักเขม้น และดู​เถิด​ ถ้าเป็นความจริงและเป็นเรื่องแน่นอนว่า ​สิ​่งที่น่าสะอิดสะเอียนนั้​นม​ีคนกระทำกันอยู่ในหมู่พวกท่าน
15 ท่านจงฆ่าชาวเมืองนั้นเสียด้วยคมดาบ ทำลายเสียให้​สิ​้นเชิ​งด​้วยคมดาบ ทั้งคนทั้งหลายที่อาศัยในเมืองนั้นและฝูงสัตว์​ด้วย​
16 ท่านจงเก็บข้าวของทั้งสิ้นในเมืองนั้นไปกองไว้​ที่​กลางถนน และเผาเมืองนั้​นก​ับบรรดาข้าวของในเมืองนั้นเสียด้วยไฟ เพื่อพระเยโฮวาห์พระเจ้าของท่าน ​ให้​เมืองนั้​นร​้างอยู่​เป็นนิตย์​ อย่าสร้างขึ้นมาใหม่​อี​กเลย
17 อย่าให้ของต้องห้ามนั้นมาติดพั​นม​ือของท่าน เพื่อว่าพระเยโฮวาห์จะทรงหันจากพระพิโรธยิ่งของพระองค์ และทรงสำแดงพระกรุณาคุณต่อท่าน และทรงเมตตาท่าน ​ให้​ท่านทวี​มากขึ้น​ ​ดังที่​​พระองค์​ปฏิญาณไว้กับบรรพบุรุษของท่านนั้น
18 เมื่อท่านทั้งหลายเชื่อฟังพระสุรเสียงของพระเยโฮวาห์พระเจ้าของท่าน คือรักษาพระบัญญั​ติ​ทั้งสิ้นของพระองค์​ดังที่​ข้าพเจ้าบัญชาท่านไว้ในวันนี้ และกระทำสิ่งที่​ถู​กต้องตามสายพระเนตรพระเยโฮวาห์พระเจ้าของท่าน”