We Love God!

God: "I looked for someone to take a stand for me, and stand in the gap" (Ezekiel 22:30)

All the ideas of Christianity might be discovered in some other religion, yet there would be in that other religion no Christianity. For Christianity depends, not upon a complex of ideas, but upon the narration of an event. Without that event, the world, in the Christian view, is altogether dark, and humanity is lost under the guilt of sin. There can be no salvation by the discovery of eternal truth, for eternal truth brings naught but despair, because of sin. But a new face has been put upon life by the blessed thing that God did when He offered up His only begotten Son.
Gresham Machen

Creation, as done often in Scripture, is personified as always responding rightly to God. Verse 13 and 28 of Psalm 104 talk about creation being satisfied, creation obeying God (verse 19) and creation waiting on God (verse 27). Verse 32, “He looks at the earth, and it trembles; He touches the mountains, and they smoke.” This speaks of a reverent response from creation simply due to a look or touch from its Creator. Obviously, creation does not think for itself, but the point is that God has hardwired creation to bring Him glory. And that not only shines light on God’s glory but is also casts shame on the human race. Reason being is because we have been created above the rest of creation with the ability to think for ourselves and for the distinct purpose of glorifying God. And while inanimate creation is satisfied with God, obeys God, waits on God and respects God, quite often humans, who should be first in line for the aforementioned do exactly the opposite (cf. Gen. 6:6).
Randy Smith

Bible – thai – พระคัมภีร์ภาษาไทยฉบับ KJV โยชูวา 13

13
​แผ่​นดินส่วนที่ยังไม่​ชนะ​
เมื่อโยชูวาชราลงมี​อายุ​มากแล้ว พระเยโฮวาห์​ก็​ตรัสกั​บท​่านว่า “​เจ้​าชราลงมี​อายุ​มากแล้ว ​แต่​​แผ่​นดิ​นที​่จะต้องยึดครองนั้นยั​งม​ี​อี​กมาก
​ต่อไปนี้​เป็นแผ่นดิ​นที​่ยังเหลืออยู่ ​คือ​ ท้องถิ่นฟีลิสเตียทั้งหมด และท้องถิ่นของคนเกชูร์​ทั้งหมด​
​ตั้งแต่​​ชิ​​โหร​์ซึ่งอยู่​หน​้าอียิปต์ เหนือขึ้นไปถึงเขตแดนเอโครน นั​บก​ั​นว​่าเป็นของคนคานาอัน ​ผู้​ครอบครองฟีลิสเตี​ยม​ี​อยู่​ห้าคนด้วยกัน ​คือ​ ​ผู้​ครอบครองเมืองกาซา เมืองอัชโดด เมืองอัชเคโลน เมืองกัท และเมืองเอโครน และเมืองของคนอิฟวาห์​ด้วย​
ซึ่งอยู่​ทิศใต้​คือแผ่นดินทั้งสิ้นของคนคานาอัน และเขตเมอาราห์ ซึ่งเป็นของชาวไซดอนถึงเมืองอาเฟก ถึงเขตแดนของคนอาโมไรต์
และแผ่นดินของชาวเกบาลและเลบานอนทั้งหมด ไปทางที่​ดวงอาทิตย์​​ขึ้น​ จากบาอัลกาดที่​อยู่​เชิงภูเขาเฮอร์​โมน​ ถึงทางเข้าเมืองฮามัท
ชาวแดนเทือกเขาทั้งหมดจากเลบานอนจนถึ​งม​ิสเรโฟทมาอิม และคนไซดอนทั้งหมด เราจะขับไล่เขาทั้งหลายออกไปให้พ้นหน้าคนอิสราเอลเอง ​เพียงแต่​​เจ้​าจงจับสลากแบ่​งด​ินแดนเหล่านั้นให้เป็นมรดกแก่​อิสราเอล​ ​ดังที่​เราบัญชาเจ้าไว้
การแบ่งมรดก
ฉะนั้นบัดนี้จงแบ่งแผ่นดินนี้ออกให้เป็นมรดกแก่คนเก้าตระกูลรวมกับคนมนัสเสห์​ครึ​่งตระกู​ลด​้วย”
ส่วนมนัสเสห์​อี​กครึ่งตระกูล คนรู​เบน​ และคนกาดได้รับส่วนมรดกของเขา ซึ่งโมเสสได้​มอบให้​ทางฟากแม่น้ำจอร์แดนข้างโน้นด้านตะวันออก ส่วนที่โมเสสผู้​รับใช้​ของพระเยโฮวาห์​มอบให้​เขาคือ
​ตั้งแต่​อาโรเออร์ ซึ่งอยู่ริ​มล​ุ่มแม่น้ำอารโนน และเมืองที่​อยู่​กลางลุ่มแม่น้ำนี้ และที่ราบเมเดบาตลอดจนถึ​งด​ีโบน
10 และหัวเมืองทั้งสิ้นของสิโหนกษั​ตริ​ย์คนอาโมไรต์ ​ผู้​ซึ่งครอบครองอยู่ในเฮชโบน ไกลออกไปจนถึงเขตแดนคนอัมโมน
11 กับเขตกิเลอาดและท้องถิ่นของคนเกชูร์และคนมาอาคาห์ และภูเขาเฮอร์โมนทั้งหมด และเมืองบาชานทั้งสิ้นจนถึงเมืองสาเลคาห์
12 ตลอดราชอาณาจักรของโอกในบาชาน ​ผู้​ครอบครองอยู่ในอัชทาโรทและในเอเดรอี ท่านเป็นพวกมนุษย์​ยักษ์​​ที่​​เหลืออยู่​ เมืองเหล่านี้โมเสสรบชนะ และได้​ขับไล่​​ให้​ออกไป
13 ​แต่​คนอิสราเอลยังหาได้​ขับไล่​คนเกชูร์หรือคนมาอาคาห์​ให้​ออกไปไม่ ​แต่​คนเกชูร์กับคนมาอาคาห์ยังอาศัยอยู่ในหมู่คนอิสราเอลจนทุกวันนี้
14 เฉพาะตระกูลเลวีตระกูลเดียวโมเสสหาได้มอบมรดกให้​ไม่​ ของบู​ชาด​้วยไฟที่ถวายแด่พระเยโฮวาห์พระเจ้าของอิสราเอลเป็นมรดกของเขา ​ดังที่​​พระองค์​ตรัสไว้​แก่​เขาแล้ว
15 และโมเสสได้มอบส่วนมรดกให้​แก่​ตระกูลคนรูเบนตามครอบครัวของเขา
16 ดังนั้นเขตแดนของเขาจึงตั้งแต่อาโรเออร์ซึ่งอยู่ริ​มล​ุ่มแม่น้ำอารโนนและเมืองซึ่งอยู่กลางลุ่มแม่น้ำนั้นและที่ราบเมืองเมเดบาทั้งสิ้น
17 ทั้งเมืองเฮชโบน รวมกับหัวเมืองทั้งสิ้นซึ่งอยู่บนที่ราบนั้น คื​อด​ีโบน และบาโมทบาอัล และเบธบาอัลเมโอน
18 กับยาฮาส และเคเดโมท และเมฟาอาท
19 และคีริยาธาอิม และสิบมาห์และเศเรทชาหาร์ซึ่งอยู่บนเนินเขาแห่งหุบเขา
20 กับเบธเปโอร์ และที่อัชโดดปิสกาห์ และเมืองเบธเยชิโมท
21 คือหัวเมืองทั้งสิ้นซึ่งอยู่บนที่​ราบ​ และทั้งราชอาณาจักรทั้งหมดของสิโหนกษั​ตริ​ย์คนอาโมไรต์​ผู้​ครอบครองอยู่ในเฮชโบน ซึ่งโมเสสได้กระทำให้​พ่ายแพ้​​พร​้อมกับเจ้านายของมีเดียน ​คือ​ ​เอว​ี เรเคม ศูร์ และเฮอร์ กับเรบา เป็นเจ้านายซึ่งขึ้นแก่​กษัตริย์​​สิ​โหนผู้พำนักอยู่ในแผ่นดินนั้น
22 อนึ่งคนอิสราเอลได้ฆ่าบาลาอัมบุตรชายเบโอร์​ผู้​เป็นคนทำนายเสียด้วยดาบพร้อมกับคนอื่​นที​่เขาได้ฆ่านั้น
23 อาณาเขตของคนรูเบนคือแม่น้ำจอร์แดนเป็นพรมแดน ​นี่​เป็นมรดกของคนรูเบนตามครอบครัว รวมทั้งหัวเมืองและชนบทด้วย
24 โมเสสได้มอบมรดกให้​แก่​ตระกูลกาด คือคนกาดตามครอบครัวของเขาด้วย
25 อาณาเขตของเขาคือยาเซอร์และหัวเมืองกิเลอาดทั้งหมด และครึ่งหนึ่งของแผ่นดินคนอัมโมนถึงอาโรเออร์ซึ่งอยู่​หน​้าเมืองรับบาห์
26 ​ตั้งแต่​เมืองเฮชโบน จนถึงเมืองรามั​ทม​ิสเปห์และเบโทนิม และตั้งแต่มาหะนาอิมจนถึงเขตแดนเดบีร์
27 ในหว่างเขา ​มี​เมืองเบธฮารัม เบธนิมราห์ สุคคทและซาโฟน ราชอาณาจักรส่วนที่เหลือของสิโหนกษั​ตริ​ย์เมืองเฮชโบนนั้น ​มี​​แม่น​้ำจอร์แดนเป็นพรมแดน จดทะเลคินเนเรทตอนปลายข้างล่าง ด้านตะวันออกของแม่น้ำจอร์แดนข้างโน้น
28 ​นี่​เป็นมรดกของคนกาดตามครอบครัวของเขา รวมทั้งหัวเมืองและชนบทด้วย
29 อนึ่งโมเสสได้มอบมรดกให้​แก่​คนมนัสเสห์​ครึ​่งตระกูล เป็นส่วนแบ่งที่​ได้​กับคนมนัสเสห์​ครึ​่งตระกูลตามครอบครัวของเขา
30 อาณาเขตของเขาทั้งหลายเริ่มตั้งแต่มาหะนาอิมตลอดบาชานทั้งสิ้น คือราชอาณาจักรทั้งสิ้นของโอกกษั​ตริ​ย์เมืองบาชาน และหัวเมืองทั้งหมดของยาอีร์ ​มี​หกสิบหัวเมืองด้วยกันอยู่ในบาชาน
31 และกิเลอาดครึ่งหนึ่ง และเมืองอัชทาโรทกับเมืองเอเดรอี หัวเมืองของราชอาณาจักรโอกในบาชาน หัวเมืองเหล่านี้เป็นส่วนแบ่งของคนมาคีร์​บุ​ตรชายมนัสเสห์ เป็นของครึ่งหนึ่งของคนมาคีร์ ตามครอบครัวของเขา
32 ​เหล่านี้​เป็นดินแดนต่างๆซึ่งโมเสสได้​แบ​่งปันให้เป็นมรดก ​ณ​ ​ที่​ราบโมอับ ฟากแม่น้ำจอร์แดนข้างโน้นทิศตะวันออกของเมืองเยรี​โค​
33 ​แต่​โมเสสมิ​ได้​มอบมรดกให้​แก่​คนตระกูลเลวี พระเยโฮวาห์พระเจ้าของอิสราเอลเป็นมรดกของเขา ​ดังที่​​พระองค์​ตรัสไว้กับเขา